เล่มนี้ชวนอ่าน

เล่มนี้ชวนอ่าน
1. Bad Boy Backpack ไขรหัสรักจัดหนักหัวใจนายมาเฟีย ราคา 139 บาท / สำนักพิมพ์แจ่มใส อ๊ายยย >O< ทำไมเรื่องแฟนนอกใจต้องเกิดกับดารานักร้องสาวชื่อดังอย่าง “พันบี” คนนี้ด้วย ฮือๆ แถมชู้รักของเขายังเป็น…กรี๊ดดด ไม่อยากจะเอ่ยขอให้ฟ้าผ่าพวกมัน งั้นฉันขอจรลีหนีหายไปจากวงการบันเทิง(ชั่วคราว) _*_เมื่อรถเสียหลักเพราะ “อิตาลี” หนุ่มหล่อนิสัยกวน ที่ดันอุตริเอาตะปูมาโรยไว้บนถนนเพื่อออ!! โอ้ย…กรรม

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์
วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day ประวัติวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day ประวัติวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว ดอกกุหลาบกลายเป็นสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก ประวัติวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว ในปัจจุบันวัยรุ่นมีค่านิยมเรื่องวันแห่งความรักตามสมัยนิยม อย่างเช่นวันวาเลนไทน์ ซึ่งตามประวัติแล้วเขาต้องการให้รักเพื่อนมนุษย์ แต่คนรุ่นใหม่ตีความหมายพลาดไป แล้วสร้างค่านิยมใหม่เรื่องความรัก และการมีความสัมพันธ์กัน โดยที่ยังไม่ตกลงนับถือกันเป็นคู่ชีวิต หรือทำเพื่อความสนุกสนาน ถือว่าเป็นค่านิยมที่ผิดทีเดียว เพราะความรักเป็นของสูงส่ง มิใช่ของสำส่อนเหมือนดังที่สัตว์บางประเภทประพฤติอยู่เป็นปกติ ในการแก้ไขนั้นเราต้องเลิกค่านิยมนี้ และชักชวนกันศึกษาธรรมะ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ถึงโทษ ความผิดศีล ผิดธรรม หรือแม้กระทั่งผิดกฎหมาย ส่งเสริมค่านิยมที่ถูกต้องในวันวาเลนไทน์ บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อบิดามารดา และสังคม แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องกามารมณ์ หรือสิ่งที่พาให้ใจไขว้เขว ฟุ้งซ่าน เพียงเท่านี้ ชีวิตก็จะมีคุณค่า และเป็นแบบอย่างที่ดีของโลก เพราะหากเรามีความรักที่แท้จริงให้แก่กัน เราย่อมมีความสุขุมเพียงพอที่จะเก็บรักษาสิ่งสำคัญนี้ ไว้เพื่อคนสำคัญของเรา ในโอกาสที่ถูกทำนองคลองธรรม และไม่เป็นการทำร้าย หรือทำลายกัน - วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว วันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day แท้จริงแล้วคือวันรักนวลสงวนตัว ตามเจตนารมณ์เดิม ว่าเป็นวันแสดงความรักแก่เพื่อนมนุษย์ ในวันวาเลนไทน์เราควรแสดงความรัก ความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ แต่ในเมื่อยุคสมัยได้บิดเบือนเจตนารมณ์ดั้งเดิมให้กลายเป็นเรื่องของเพศสัมพันธ์ไป เราต้องช่วยกันนำกลับไปสู่จุดดั้งเดิม คือสร้างความเข้าใจ และแบบแผนอันดีงามขึ้นมาใหม่ในวันวาเลนไทน์ แม้แต่การทดลองอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงานนั้นก็ไม่ถูกหลักวิชชา เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของการทดลองทางวิทยาศาสตร์ แสดงให้เห็นว่ายังขาดความเข้าใจว่า ความรักมีเพื่อสิ่งใด ชีวิตคู่ไม่ใช่ของลองเล่น แต่เป็นสิ่งสูงส่ง เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ที่จะให้กายละเอียด ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เพื่อสร้างบารมี และยกฐานะของเรา จากคู่รัก เป็นสามีภรรยา เป็นบิดาบารดา เป็นครู เป็นเทวดา กระทั่งเป็นพระพรหม พระอรหันต์ในบ้าน ยกระดับไปตามขั้นตอน อย่างนี้จึงจะถูกหลักวิชชา - วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว วันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day แท้จริงแล้วคือวันรักนวลสงวนตัว ตามเจตนารมณ์เดิม ว่าเป็นวันแสดงความรักแก่เพื่อนมนุษย์ ความรักทรงกลม เรื่องของความรักดีๆ ในวันวาเลนไทน์นี้ Valentine’s Day ความรักเป็นสิ่งที่ทุกผู้ทุกนามพึงมี บางคนรักแต่ตัวเอง รักอย่างนี้เรียกว่า "รักเห็นแก่ตัว" บางคนรักแค่คู่ครอง รักแค่ครอบครัว ก็จัดเป็นความรักแบบ "หางรัก" บางคนรักคนรอบตัวเพิ่มขึ้นไปอีกนิดก็เป็น "รักที่ยังไม่กว้าง" บางคนเลือกที่จะรัก จัดเป็นความรักแบบ "ลำเอียงรัก" ความรักเหล่านี้เป็นความรักแคบๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงเศษแห่งรัก ความรักกว้าง ๆ เป็นอย่างไร เป็นความรักชนิดไหน… ความรักดีๆ ในวันวาเลนไทน์นี้ ทุกคนสามารถเข้าถึงความรักชนิดนี้ได้หรือไม่ อย่างไร รักหลากแบบ บางคนมองความรักไว้เพียงชาติเดียว มุ่งสะสมสมบัติ ชื่อเสียง เกียรติยศ ไม่ศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์ ทำให้ไม่รู้บุญรู้บาป ไม่รู้ดีรู้ชั่ว ถ้าจะสุขก็สุขเพียงเล็กน้อย สุขได้อย่างเก่งก็แค่ชาติเดียว ชาติต่อไปอาจจะทุกข์อย่างมหันต์ก็ได้ คนรักตัวเอง 2 ชาติคือ ชาตินี้ กับชาติหน้า จึงจัดเป็นบัณฑิตได้ระดับหนึ่ง บุคคลประเภทนี้จะทำความดีเผื่อไว้ชาติหน้า บางคนรักตัวเองทุกชาติ รักที่จะข้ามห่วงแห่งทุกข์เข้าสู่ฝั่งพระนิพพาน จึงจัดเป็นบัณฑิตอย่างยิ่ง บุคคลประเภทนี้จะทำความดีอย่างยิ่งยวด บางคนนอกจากรักตัวเองทุกชาติแล้ว ยังปรารถนาให้สัตว์ทั้งหลายมีสุข พ้นทุกข์ เฉกเช่นเดียวกับตน มีความเมตตากรุณาแก่เหล่าสัตว์โดยทั่วหน้า บุคคลประเภทนี้จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากพระโพธิสัตว์เจ้าเท่านั้น ความรักอย่างนี้จัดเป็นความรักสูงสุด ความรักสูงสุดต้องเป็นความรักที่เท่าเทียม ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ เป็นรักที่ไร้อคติ เป็นความรักกว้างขวางที่แผ่ขยายไปอย่างไม่มีขอบเขต เป็นความรักทรงกลม เป็นความรัก 360 องศา เป็นรักรอบตัว เป็นความรักที่มอบแก่สรรพสัตว์โดยปราศจากความกำหนัดยินดีและแผ่ขยายรอบตัวต่อไปอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังคำของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ที่ว่า "เหมือนเป็นทรงกลมที่ไม่มีเส้นรอบวง" ความรักชนิดนี้เป็นความรักที่กว้างขวางยิ่งใหญ่ ไม่เป็นความรักที่พุ่งหาเฉพาะใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรักที่แผ่ขยายรอบตัว เหมือนเป็นพลังมวลแห่งความบริสุทธิ์ที่ขยายกว้างออกไปพร้อม ๆ กันทั้ง 360 องศา ความรักประเภทนี้ผู้เขียนขอเรียกสั้น ๆ ว่า "ความรักทรงกลม" - ข้อคิดดี - ดี เรื่องความรักในวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว ความรักทรงกลม… ความรักทรงกลมนี้เป็นความรักสูงสุด มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยการทำใจให้หยุดนิ่ง สงบเป็นสมาธิ(Meditation) จนเข้าถึงภาวะแห่งความรักทรงกลม คือ เข้าถึงดวงธรรมภายใน ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 (อยู่กลางตัวเหนือสะดือขึ้นมา 2 นิ้วมือ) ยิ่งดวงธรรมแผ่ขยายไปถึงไหน ความรักและความปรารถนาดีอันบริสุทธิ์ก็ไปถึงนั่น เป็นความรักมาตรฐาน รักที่อมตะ เป็นความสุขแท้ทั้งผู้รับและผู้มอบ เป็นความรักที่ท้าทายการเข้าถึง ซึ่งอยู่ในตัวของท่านเอง ! - วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว *โดย เกษมสุข ภมรสถิตย์ จากวารสารกัลยาณมิตร ปี 2540 วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว ^_^ เพลงวันวาเลนไทน์ เรื่องของความรักวันวาเลนไทน์ Happy Valentine’s Day วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day ความรักนี่เป็นอารมณ์อย่างหนึ่ง ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วถือว่า ส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดของคนคนนั้นอย่างมากเลย เราจะเห็นว่า บทเพลงเอย บทกวีเอยในโลกส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับเรื่องความรักความใคร่ต่างๆ เป็นส่วนใหญ่ ยิ่งคนในวัยหนุ่มวัยสาว อารมณ์ในเรื่องนี้ก็จะยิ่งแรงเป็นพิเศษ พูดถึงเรื่องความรักยังจำได้สมัยเรียนมัธยมมีบทพระราชนิพนธ์ของราชการที่ 6 ที่พูดเรื่องของความรัก “ความเอ๋ยความรัก เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน เริ่มเพราะเหมาะกลางหว่างหัวใจ หรือเริ่มในสมองตรองจงดี แรกจะเกิดเป็นไฉนใครรู้บ้าง อย่าอำพรางตอบสำนวนให้ควรที่ ใครถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงราตรี ผู้ใดมีคำตอบขอบใจเอย” คราวนี้มีอีกอันหนึ่งที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องความรักดีเหมือนกัน เขาบอกว่า “จะหักอื่นฝืนหักก็จักได้ หักอาลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก สารพัดตัดขาดประหลาดนัก แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ” บางคนพอมีความรักเกิดขึ้น เรียกว่าถ้าเกิดผิดหวังอกหักแล้วละก็เรียกว่ามองฟ้าฟ้าก็หม่นหมอง มองดินดินก็เศร้า ดูต้นไม้ใบหญ้าดูมันแย่ไปหมด อารมณ์มันจะเกาะอยู่กับเรื่องนั้นตัดใจไม่ขาดเลย แล้วถ้าเกิดคนรักกันชอบกันตีห่างกันไปเป็นปี 3 ปี 5 ปี ไปอยู่ต่างประเทศอยู่ต่างถิ่นต่างแดนยังไง ก็ยังมีความอาลัยรักถึงกัน ถึงอารมณ์รักเป็นอารมณ์ที่มีพลานุภาพค่อนข้างจะรุนแรงมาก ทั้งทางบวกและทางลบ ผิดหวังมาบางทีทำเรื่องร้ายๆได้ ถ้าฉันไม่ได้ใครก็อย่าได้เลย ทำลายแทนอันนี้ก็มีข่าวคราวกันอยู่ จากความรักเป็นความแค้นก็แค่เส้นใยเดียวเหมือนกัน - ข้อคิดดี - ดี เรื่องความรักในวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว อารมณ์รัก ความรักในวันวาเลนไทน์ อารมณ์รัก ศัพท์ทางบาลีใช้คำว่า สิเน่หา แปลเป็นไทยว่าเสน่ห์ๆ บาลีสิเน่หา ถ้าใจเกาะอารมณ์นี้เมื่อไหร่ มันจะคล้ายๆ ลิงติดตัง เราเคยรู้จักลิงติดตัง ถ้าคนสมัยก่อนจะนึกออกนะ เวลาเขาจะจับลิงป่า เขาจะเอาตังคือน้ำมันเคี่ยวจนข้นเหนียวๆ ยางไม้ จนเหนียว เหมือนกับกาวเหนียว แล้วก็ไปวางเอาไว้ โดยลิงมันจะชอบเลียนแบบคน มันจะแอบดูว่าคนทำยังไง เขาก็จะวางไว้เสร็จเรียบร้อยก็จะทำเป็นเอามือไปจับๆ แตะๆ แล้วเดี๋ยวซักพักคนก็เดินไป พอคนเดินไป ลิงมันเหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นคนแล้วมันจะเริ่มไต่ต้นไม้ลงมา ต้นมะพร้าวลงมาถึงมันก็มาลองแตะดู พอมันแตะมือก็ติดดึงไม่ออก มันก็เอามืออีกมือหนึ่งมายัน เพื่อ จะยันดึงมือแรกออก แต่กลับติดทั้งสองมือ เอาขาช่วยอีกขามาช่วยยันขาที่ 3 อยู่อีก เอาขาที่ 4 มายัน 4 ขาอยู่หมดเลยเอาหัวไปดัน ปรากฏว่าทั้ง 2 แขน 2 ขาและ 2 มือ 2 เท้า แล้วก็หัวติดจุกอยู่ตรงนั้นเอง ชาวบ้านก็ออกมาจับหิ้วไป ใส่ปลอกคอไปล่ามโซ่เป็นลิงเลี้ยงสบายไปเลย นี่แหละคือลิงติดตัง อารมณ์ของใจเหมือนกัน ปกติใจคนเรามันจะเพลิดเพลินในอารมณ์ต่างๆ เดี๋ยวคิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้เปลี่ยนไปเรื่อยๆนี่ใช่ไหม แต่พอเจออารมณ์รักเมื่อไหร่ ไปถามหนุ่มถามสาวดูจะรู้ดีเดียวกลายเป็นลิงติดตัง หลับตาลืมตาฝ่ายหนุ่มเห็นแต่หน้าสาวลอยมา ฝ่ายสาวเห็นแต่หน้าหนุ่มลอยมาคิดเรื่องอื่นไม่ออกแล้วดูไปที่ไหนก็เห็นแต่หน้าเขาลอยมาใจมันหมกหม่น วนอยู่กับอารมณ์ สิเน่หา แปลว่า ยางเหนียว ให้เรารู้กันว่าเรื่องความรักอารมณ์ สิเน่หาไม่ธรรมดา เพราะฉะนั้นเราเองระวังว่า อย่าให้เป็นลิงติดตังเสร็จแล้วก็ถูกจูงไปในทางที่ไม่ดีได้ก็แล้วกัน - ข้อคิดดี - ดี เรื่องความรักในวันวาเลนไทน์ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ Happy Valentine’s Day ธรรมะดีๆ ในวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day ความรักที่จะเกิดผลดี คือเปลี่ยนพลังขับเคลื่อนที่รุนแรงไปในทางสร้างสรรค์ได้ จะต้องไปคู่กับความรับผิดชอบ ถ้าปล่อยให้อารมณ์สิเน่หาดึงเราเพลิดไปตามอารมณ์ เกิดผลเสียได้เยอะ แต่ถ้าเกิดเมื่อไหร่เกิดมาคู่กับความรับผิดชอบ ซึ่งมันก็คือการจะไม่มองอะไรไกลขึ้นกว่าความต้องการเฉพาะหน้า ถ้าอย่างนี้แล้วละก็เราสามารถเปลี่ยนอารมณ์นี้ไปในทางสร้างสรรค์ได้ อย่างมีพระเดชพระคุณพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งซึ่ง ท่านก็ฟังมาจากพระอาจารย์ท่านอีกต่อหนึ่ง ซึ่งพระอาจารย์รูปนั้นเคยเป็นอุปัฏฐากเป็นพระเลขาส่วนตัวของพระเดชพระคุณ หลวงปู่วัดปากน้ำ ตอนหลังมาเป็นเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ท่านพระเดชพระคุณพระราชโมลีองค์ก่อน องค์ปัจจุบันคือพระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ของธรรมทายาท ท่านเจ้าคุณพระราชโมลีท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านนายห้างสวัสดิ์ โอสถานุเคราะห์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่ที่ประสบความสำเร็จมาก เริ่มต้นตอนทีท่านยังหนุ่มฐานะก็ยังธรรมดานะ ไม่ได้เป็นคนมีฐานะ แต่ฝ่ายภรรยาคือ คุณหญิงล้อม เป็นลูกเจ้าสัวมีฐานะดีมากเลย ผู้หญิงสมัยก่อนต้องฟังคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อคุณแม่ก็ไปให้หมอดูช่วยดูดวงให้ก็บอกว่าแต่งไม่ได้นะ แต่งแล้วจะแย่จะอย่างงั้นจะอย่างงี้ ล่มจมอะไรสารพัดอย่าง แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายหญิง มีความเคารพพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำมาก ก็เลยมากราบถามพระเดชพระคุณหลวงปู่ถามว่าจะเอายังไงดี พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านหลับตานิ่งๆ พักเดียวท่านบอกว่า แต่งเลยแต่งแล้วจะรวย สวนหมออื่นทั้งหมด แต่ความที่คุณพ่อคุณแม่ฝ่ายหญิงเคารพหลวงปู่มากพอฟังก็เลยอนุญาตให้แต่ง ฝ่ายหญิงฐานะดี ฝ่ายชายธรรมดา แต่พอแต่งจากความรักที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ฝ่ายชายรู้สึกว่า ฝ่ายหญิงเหมือนดอกฟ้าโน้มกิ่งมาหาเรา ให้โอกาสให้เกียรติเราขนาดนี้ เราต้องรับผิดชอบ ทุ่มเททำงานอย่างหนัก วิริยะอุตสาหะรับผิดชอบครอบครัว ให้เกียรติฝ่ายหญิงตลอดชีวิต ไม่ใช่ชอบตอนสวยๆ สาวๆแล้วพอมีอายุขึ้นมาแล้วมีลูกขึ้นมาแล้วละก็ไม่สนใจใยดี ไปหาเล็กไปหาน้อยไม่ใช่อย่างนั้นนะคือรับผิดชอบตลอดชีวิตเลย - ข้อคิดดี - ดี เรื่องความรักในวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว ส่วนฝ่ายหญิง เรียกว่า เป็นหญิงแม่ศรีเรือนดูแลทุกอย่างไว้อย่างดีเหมือนกัน ฝ่ายชายหาทรัพย์มอบให้ฝ่ายหญิงดูแลการเงินหมด เป็นใหญ่ในบ้านมอบทรัพย์ให้ ฝ่ายหญิงก็จัดการดูแลทุกอย่างอย่างดี เอาไปใช้ซื้อที่ซื้อทางลงทุนทุกอย่าง จนเจริญงอกงามขึ้นมา สุดท้ายเป็นมหาเศรษฐีเป็นพันเป็นหมื่นล้านเลย นี่คือการเปลี่ยนพลานุภาพของความรัก ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ให้เป็นพลังขับเคลื่อน ไปสู่ความวิริยะอุตสาหะในการสร้างฐานะสร้างตัว แล้วก็ประสบความสำเร็จ ความรัก ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบจะยั่งยืน สุขสันต์วันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ Happy Valentine’s Day วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว แต่ถ้าเกิดความรักแบบหนุ่มๆ สาวๆ แค่ชั่วครั้งชั่วคราว บางทีผ่านไปคืน 2 คืนยังไม่รู้อีกฝ่ายหนึ่งชื่ออะไร เพราะฉะนั้น อย่าดูเบาเรื่องความรักเพราะเกิดขึ้นมาทีแล้วละก็ฤทธิ์เดชมันเหลือเกิน พุทธเจ้าท่านบอกไว้เลย สิเหน่หาคือยางเหนียว แค่นิดเดียวอารมณ์นั้นอยู่เลย ไม่หลุดไปอารมณ์อื่น เรารู้อย่างนี้แล้วอย่าเผลอใจ ถ้าเกิดอยู่ในวัยเรียนแล้วละก็หลีกเลี่ยงก่อนยังไม่ถึงเวลาบอกตัวเอง คือมันมีจุดเริ่มต้น ถ้าเกิดระวังตัวแล้วละก็ไม่ให้เราถลำลึกลงไป แต่พอถลำใจไปแล้วมันจะรั้งกลับยาก สมัยก่อนบางทีหอบข้าวหอบของหนีตามหนุ่มไปทิ้งพ่อทิ้งแม่ไปอยู่กับหนุ่มเพราะมันรั้งอารมณ์กลับมาไม่ไหว สำคัญคือ อย่าให้ถลำลงไป ยังไม่ถึงเวลา วัยเรียนต้องเรียนดีกว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เอาให้จบก่อน ฟังอย่างนี้บางท่านอาจจะบอกว่า พระอาจารย์เชย เดี๋ยวนี้นี่ไม่ต้องถึงมหาวิทยาลัยหรอก แค่มัธยมเขาก็มีกันหมดไม่มีอยู่คนเดียว เอาเถอะเขาจะว่าเราเชยไม่เชยปล่อยไปเถอะเดี๋ยวถ้าเกิดว่าเรารู้จักเวลา รู้จักวัย นึกถึงคุณพ่อคุณแม่เยอะๆ นึกถึงอนาคตเยอะๆ เราจะเป็นคนที่มีค่าแล้วก็ประสบความสำเร็จ ในชีวิตการครองเรือนในอนาคต แต่คนไหนปล่อยใจให้วูบวาบไปทั้งที่วัยยังไม่ถึงเวลา ปล่อยไปตามอารมณ์อย่างเดียวไม่นึกถึงความรับผิดชอบอะไร สนุกวันนี้จะต้องน้ำตาตกวันหลัง เพราะฉะนั้น ย้ำอีกครั้ง จะใช้พลังของความรักไปในทางสร้างสรรค์ได้ จะต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ มองไกลๆรอให้ถึงเวลา ให้เราโตพ้นวัยการศึกษาเสียก่อน - ข้อคิดดี - ดี เรื่องความรักในวันวาเลนไทน์ ข้อคิดดีๆ ในวันวาเลนไทน์ ถ้าเกิดเหตุกระทบกระทั่งกัน จะวิธีขอโทษอย่างไร เนื่องจากอารมณ์รักมันแรงเหมือนรถมันวิ่งเร็ว ถ้ามันวิ่งช้าๆจะเฉียดจะเฉี่ยวหน่อยมันก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่พอวิ่งแรงๆ เกิดอุบัติเหตุทีมันจะแรงนะ เหมือนกันคนบางทีอารมณ์รักหวานชื่น แต่ถึงคราวพอเกิดอะไรขึ้นมามีความรู้สึกเหมือนว่าเหมือนแก้วมันร้าวไปแล้ว ชาตินี้คงยากจะประสานกันได้เหมือนเดิม มันร้าวมันแตกไปแล้ว แต่ว่าจริงๆแล้ว แก้วจะแตกจะร้าวจะประสานกันได้หรือไม่มันขึ้นอยู่กับใจ ถ้าใจเกาะติดเรื่องนั้นแล้วก็เกาะติดกับความรู้สึกเดิมๆนะมันก็เหมือนกับแก้วร้าวประสานแล้วมันก็แค่เชื่อมๆ มันไม่เหมือนเดิม แต่ถ้าเกิดใจมันโปร่งขึ้นมา ไม่ได้ยึดติดกับเรื่องนั้น มันก็พร้อมจะประสานให้เหมือนเดิม แก้วร้าวไปเข้าโรงงานหลอมมาเป็นแก้วใบใหม่ เพราะฉะนั้นจะเป็นอย่างไรก็สุดแท้แต่ใจของคุณนั่นเอง ถ้าเกิดว่าใจใสสว่างแล้วก็ไม่ถือในความผิดพลาดในเรื่องที่ผ่านๆ มาแล้ว ทุกอย่างก็จะเป็นเรื่องเล็ก หัวใจหลักการอยู่ตรงนี้ ดีที่สุดชวนกันเข้าวัดปฏิบัติธรรม ให้เป็นคู่บุญคู่บารมี ไม่ใช่ว่าเป็น คู่ทุกข์คู่ยาก เอาเป็นคู่บุญคู่บารมีดีกว่า คู่ทุกข์คู่ยาก ไม่ต้องห่วงพี่จะเลี้ยงด้วยลำแข้ง อย่างนี้ท่าจะแย่อย่างนี้เข้าวัดปฏิบัติธรรม แล้วก็รู้จักเรื่องบุญเรื่องกุศลเรื่องการทำความดี มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเหมือนกัน ทำให้ใจนุ่มนวลอ่อนโยนทั้งคู่ มีธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ ชีวิตครอบครัวเจริญก้าวหน้าหน้าที่การงานทุกอย่างดีหมด อย่างนี้ถึงจะดี - ข้อคิดดีๆ ในวันวาเลนไทน์ เดือนแห่งความรัก เทศกาลวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day วันวาเลนไทน์ เดือนกุมภาพันธ์ เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยการแสดงถึงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่เราปรารถนาดีและอยากให้เขามีความสุข และเป็นที่รับรู้กันทั่วโลก ว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) อันว่าความรักนั้น เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาช้านาน และมนุษย์ทุกคนล้วนมีความรักอยู่ภายในใจมากหรือน้อยแตกต่างกันไป 14 กุมภา วันวาเลนไทน์ แล้วความรักคืออะไร ผู้อ่านหลายท่านคงมีคำตอบสำหรับตนเองอยู่แล้ว บางคนอาจตอบว่าความรักคือ ความรู้สึกซึ่งมีความรู้สึกหลายๆ แบบปนกันอยู่ ความรัก คือ สิ่งเติมเต็มให้ชิวิตไม่รู้สึกขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง บางคนอาจตอบว่าความรัก เป็นนามธรรมที่มองไม่เห็นเเต่สามารถสัมผัสได้ด้วยหัวใจ บางคนอาจตอบว่า ความรักคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต เป็นต้น ส่วนคำว่า “รัก” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช 2525 มีความหมายว่า “ชอบอย่างผูกพันพร้อมด้วยความชื่นชมยินดี” ส่วนในภาษาอังกฤษนั้น จะขอยกตัวอย่างของคำว่า "LOVE" จากหนังสือชื่อ New Model English - Thai Dictionary โดยดูหลักในการนำพยัญชนะมาผสมรวมเป็นคำ และความประสงค์ของผู้บัญญัติศัพท์ว่า LOVE โดยการเรียงพยัญชนะ ก็จะพบกับความหมายใหม่ ดังนี้ เส้นทางที่โปรยด้วยกลีบกุหลาบมีจริงในโลก คลิกดู L ตัวแรก น่าจะหมายถึง Lake of sorrow ทะเลสาบแห่งความเศร้าโศก O ตัวที่สอง น่าจะหมายถึง Ocean of tear ห้วงทะเลแห่งน้ำตา V ตัวที่สาม น่าจะหมายถึง Vagen of death หุบเขาแห่งความตาย E ตัวที่สี่ น่าจะหมายถึง End of life จุดจบของชีวิต วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว วันวาเลนไทน์ Happy Valentine’s Day ถ้าหากความรักมีความหมายตามแบบการผสมอักษรดัง 4 ตัวข้างต้นนั้น ความรักจะเป็นสิ่งสวยงามได้จริงหรือ เพราะความหมายของคำว่า LOVE นั้นก็บอกอยู่ว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งสวยงามเลยซักเท่าใด แต่ในทางพระพุทธศาสนาแล้วมีหลักคำสอนที่สำคัญประการหนึ่งเกี๋ยวกับความรัก นั้นคือหลักความเมตตา หรือความรักความปรารถนาดีต่อคนอื่น หรือในความหมายที่กว้างออกไป คือความรักที่มีต่อมนุษย์ด้วยกัน ตลอดถึงสรรพสัตว์ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงการเกิดของความรักไว้หลายนัยด้วยกัน แต่ในที่นี้ขอนำมากล่าวเพียง 2 ประการ คือ 1. ปุพเพสันนิวาส การอยู่ร่วมกันในอดีตชาติ คือการที่เคยอยู่ร่วมกันมา เคยคบหาสนิทสนมชอบพออัธยาศัยกันมา หรือเคยเลี้ยงดูกันมา เคยทำบุญเกื้อหนุนกัน เมื่อมาพบกันในชาตินี้ แม้ในคราวแรกพบก็เกิดความนิยมชมชอบรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยอย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า "รักแรกพบ" นั้นเอง โดยที่หาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมจึงนิยมชมชอบบุคคลผู้นั้นอย่างจริงๆ จังๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเห็น 2. การช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชาติปัจจุบัน เป็นเหตุผลที่ชัดเจนอยู่ในตัว คือการเกื้อกูลกันในปัจจุบันนั้นคือทำให้เกิดความสนิทสนมรักใคร่ไว้วางใจใน ฐานะเป็นกัลยาณมิตร คือการแสดงออกในรูปของการอุปการะร่วมสุขร่วมทุกข์แนะนำประโยชน์ และมีความรักใคร่ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน จึงเกิดความรัก ความเมตตาต่อกันขึ้น สัญลักษณ์รูปหัวใจที่นิยมมอบให้ในวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day วันแห่งความรักสากล หากมวลมนุษยชาติในโลกกว้างใหญ่ใบนี้ ได้รับการศึกษาและปฏิบัติตามหลักคำสอนในพุทธศาสนาแล้ว การเรียกร้องหาความรักและสันติภาพเพื่อให้เกิดขึ้นในสังคมโลกอย่างที่พยายามกันในปัจจุบันคงไม่เป็นเรื่องลำบากจนเกินไป เพราะหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาเป็นคำสอนแห่งสันติสุขและสันติภาพ จากการศึกษาประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาไม่มีสักหน้าเดียวที่เปื้อนด้วยเลือด ของบุคคลผู้เคราะห์ร้ายเพราะเหตุแห่งการประกาศพระสัจธรรมและเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้วยการแย่งชิงศาสนิกชนหรือความเกลียดชังทางศาสนา ความรักเป็นอำนาจอย่างหนึ่งในจิตใจมนุษย์ ที่มีอิทธิพลมากมาย และสามารถก่อให้เกิดอารมณ์อันหลากหลายที่ตรงกันข้ามกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความทุกข์ ความยินดี ความซึมเศร้า ความเฉื่อยชาและความกระตือรืนร้น นักกวีบางท่านได้กล่าวไว้ว่า ความรักทำให้โลกหมุน ทำให้คนชั่วกลับ กลายเป็นคนดี ความรักบันดาลได้มากมาย ที่สำคัญความรักมิได้มีความหมายเพียงความรักระหว่างหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงความรักระหว่าง พ่อแม่กับลูก อาจารย์กับศิษย์ เพื่อนฝูงต่อเพื่อนฝูง รวมไปถึงความรักที่มนุษย์มีต่อมวลมนุษย์ และสิ่งต่างๆ ที่อยู่ร่วมโลกเดียวกันอีกด้วย ความรัก มีความ หมายที่กว้างขวาง ไร้ขอบเขตจำกัด อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์ทุกชาติทุกภาษาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข - วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักสากล ประวัติวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว ความรักผ่านเข้าออกดวงใจของเรานับตั้งแต่แรกเกิด ลืมตาดูโลก พบกับพ่อแม่ ผู้ให้ความอบอุ่นเลี้ยงดูแลอย่างทะนุถนอม และญาติพี่น้องผู้มีสายเลือดใกล้ชิด เมื่อเติบใหญ่ขึ้นจึงได้รู้จักกับเพื่อนทั้งหญิงและชายวัยเดียวกันหรือต่างวัย ความรักก็เริ่มแตกกิ่งก้านสาขาออกไป จนกระทั่งได้พบคนที่ถูกอกถูกใจ หวังให้มาเป็นคู่ชีวิต ความรักได้ผลิบานออกไปในอีกรูปแบบหนึ่ง เมื่อตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน จนกระทั่งมีลูก ช่วงที่เลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ก็เป็นอีกฤดูกาลหนึ่งของชีวิต จนกระทั่งย่างเข้าสู่วัยชรา ความรักประสาวัยรุ่นที่คึกคะนองพลันอันตรธานไป แปรเปลี่ยนเป็นความรักความห่วงใยในลูกหลานและบริวารตามอย่างของผู้สูงอายุ แล้วเหตุใดถึงมีวันวาเลนไทน์เกิดขึ้นมาติดตามได้ในประวัติของวันวาเลนไทน์ ข้างล่างนี้ - วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักสากล สุขสันต์วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day ประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) วันแห่งความรักสากล วันวาเลนไทน์ (Valentine) คือวันที่ระลึกถึง นักบุญเซนต์วาเลนไทน์ ผู้เปี่ยมไปด้วยความรัก ความปรารถนาดี ต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง แต่สุดท้ายเขาต้องจบชีวิตลงด้วยการรับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หรือเมื่อประมาณ 1,728 ปีล่วงเลยมาแล้ว ซึ่งเป็นยุคสมัยของจักรวรรดิโรมันที่ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับ ซํ้าร้ายภายใต้การปกครองของกษัตริย์คลอดิอุสที่ 2 ผู้ออกกฎหมายบีบบังคับให้ประชาชนเลิกนับถือ และห้ามให้มีแต่งงานของพวกคริสเตียนเกิดขึ้น แต่ยังคงมีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" หรือที่ได้รับการยกย่องเป็น เซนต์วาเลนไทน์ ในภายหลัง คอยลักลอบแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขังและรับโทษทรมานแสนสาหัสอยู่ในคุก - ประวัติวันวาเลนไทน์ ในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอด ซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในคุก ด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ เมื่อความนี้ล่วงรู้ถึงหูกษัตริย์คลอดิอุสที่ 2 พระองค์จึงสั่งให้ลงโทษ วาเลนตินัส ด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ ในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น ได้เขียนจดหมายสั้นๆ เป็นการอำลาส่งไปให้หญิงคนรักของเขา โดยลงท้ายในจดหมายว่า "...จากวาเลนไทน์ของเธอ (Love From Your Valentine) " ต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องราวจึงเกิดความประทับใจในความรักของเขา ยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันแห่งความรัก" หรือ "วันวาเลนไทน์" และได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรป อเมริกา รวมทั้งในทวีปเอเชียด้วย - ประวัติวันวาเลนไทน์ ประวัติวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว ธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติในวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day วันวาเลนไทน์ - ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง ในวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day นี้ แต่โดยรวมแล้วจะมีการเฉลิมฉลองที่เป็นการแสดงถึงความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้าน การพิมพ์เข้ามาเกี่ยวข้องมีการพิมพ์บัตร อวยพรโดยเข้ามาแทนที่จดหมายที่ เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันในวันวาเลนไทน์ก็มีการส่งบัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วยให้คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใย ถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นหรือ จะเป็นการส่งดอกกุหลาบสีแดง การมอบช็อคโกแลตให้แด่คนที่เรารักในวันวาเลนไทน์ นี่คือประเพณีส่วนใหญ่ที่นิยมปฏิบัติในวันวาเลนไทน์ - ประวัติวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day วันแห่งความรักสากล ดอกไม้จากใจ สำหรับวันวาเลนไทน์นี้ วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day ประวัติวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักนวลสงวนตัว ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน หรือว่าประเทศใด ดอกไม้นั้นนับว่าเป็นสื่อรักแทนใจที่คลาสสิคที่สุด ไม่เพียงแค่เป็นตัวแทนแห่งความรักสำหรับหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ดอกไม้ยังสามารถสื่อความรักได้หลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว ซึ่งดอกไม้ต่าง ๆ ก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป ดอกไม้วันวาเลนไทน์ กุหลาบสีแดง : เป็นดอกกุหลาบที่แทนความหมายว่า "ฉันรักเธอ" ถ้ามอบดอกกุหลาบสีแดงให้แก่คู้รักนั้นหมายความว่าคุณจริงจัง และอยากใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับเค้า - ดอกไม้วันวาเลนไทน์ กุหลาบสีขาว : เป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความบริสุทธิ์ ในความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน - ดอกไม้วันวาเลนไทน์ กุหลาบสีชมพู : เป็นตัวแทนของความโรแมนติกที่สุด แสดงถึงความรักที่กำลังจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ - ดอกไม้วันวาเลนไทน์ กุหลาบสีเหลือง : ซึ่งสีเหลืองแสดงถึงความสดใส ส่วนมากจะนำไปเยี่ยมผู้ป่วย หรือมอบแทนความรู้สึกดี ๆ ให้แก่เพื่อน - ดอกไม้วันวาเลนไทน์ ดอกทิวลิปสีแดง : เป็นการแสดงออกถึงความรักอย่างเปิดเผย - ดอกไม้วันวาเลนไทน์ ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู :ใช้แทนความหมายว่า "ถึงอย่างไรผมก็ยังรักคุณ" หรือ "คุณยังอยู่ในหัวใจฉันเสมอ" - ดอกไม้วันวาเลนไทน์ ดอกลิลลี่สีขาว : แสดงถึงความรักที่บริสุทธิ์ เฉกเช่นเดียวกับกุหลาบขาว นอกจากนั้นยังแสดงบถึงความรักที่อ่อนหวานและจริงใจ หรืออาจจะแทนความหมายว่า "ฉันรู้สึกดี ๆ ที่ได้รู้จักและอยู่ใกล้คุณ" - ดอกไม้วันวาเลนไทน์ ดอกฟอร์เก็ตมีน๊อต: มีความหมายลึกซึ้งว่า รักแท้ หรืออาจะสื่อความหมายว่า ได้โปรดอย่าลืมฉัน และอย่าลืมความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน - ดอกไม้วันวาเลนไทน์ เรื่องเล่าในวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day ในส่วนของประวัติวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day นี้ เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งไม่มีใครทราบว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือเปล่า แต่ไม่ว่าประวัติที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้เราก็ได้ถือว่าวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของปีเลยทีเดียว ส่วนวันแห่งความรักในมุมมองของพระพุทธศาสนาคือ“ วันมาฆบูชา ” อันเป็นวันสำคัญยิ่งทางพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง เป็น “ วันแห่งความรัก ” ทั้งนี้ เนื่องจากวันดังกล่าวได้เกิดเหตุการณ์พิเศษที่เรียกว่า “ จาตุรงคสันนิบาต ” ขึ้น อีกทั้งยังเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประกาศหลักการและอุดมการณ์แห่งพุทธศาสนา อันมีเนื้อหาหลักว่าด้วยการส่งเสริมให้มวลมนุษย์ตั้งมั่นในการทำความดี ละความชั่ว ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน นั่นก็คือ ทรงสอนให้ทุกคนมีความรักอันยิ่งใหญ่ เป็นรักที่ไม่เห็นแก่ตัว เมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก โดยมีพระสงฆ์เป็นผู้นำพระธรรมคำสั่งสอนดังกล่าวไปเผยแพร่

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันตรุษจีน

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บทความ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บทความ แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มาฆบูชาฤกษ์ดี



วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง และได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง โดยในปี พ.ศ.2556 นี้ วันมาฆบูชา ตรงกับวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 วันนี้กระปุกดอทคอม จึงมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันมาฆบูชามาฝากกันค่ะ

ความหมายของวันมาฆบูชา

          คำว่า "มาฆะ" นั้น เป็นชื่อของเดือน 3 ย่อมาจากคำว่า "มาฆบุรณมี" หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3

การกำหนดวันมาฆบูชา
          การกำหนดวันมาฆบูชาตามปฏิทินจันทรคติของไทยนั้นจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 แต่ถ้าปีใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 และมักตรงกับเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม

 ความสำคัญและประวัติของวันมาฆบูชา
          ความสำคัญของวันมาฆบูชา คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์"แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่างๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์"
 ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อมๆ กันถึง 4 ประการ อันได้แก่
          1.วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์

          2.มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

          3.พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6

          4.พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"

          และเพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" ซึ่งคำว่า "จาตุรงคสันนิบาต" นี้ มีความหมายตามการแยกศัพท์คือ

          จาตุร แปลว่า 4
          องค์ แปลว่า ส่วน
          สันนิบาต แปลว่า ประชุม

          ดังนั้น "จาตุรงคสันนิบาต" จึงหมายความว่า "การประชุมด้วยองค์ 4" นั่นเอง
          ทั้งนี้วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันพระธรรม ขณะที่วันวิสาขบูชาถือว่าเป็นวันพระพุทธ ส่วนวันอาสาฬหบูชา เป็นวันพระสงฆ์
 ประวัติการถือปฏิบัติวันมาฆบูชาในประเทศไทย

          พิธีทำบุญวันมาฆบูชานี้ ไม่ปรากฎหลักฐานว่ามีมาในสมัยใด อย่างไรก็ตามในหนังสือ "พระราชพิธีสิบสองเดือน" อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ของ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" มีเรื่องราวเกี่ยวกับการประกอบราชกุศลมาฆบูชาไว้ว่า

          ประเทศไทยเริ่มกำหนดพิธีปฏิบัติในวันมาฆบูชาเป็นครั้งแรกในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งมีการประกอบพิธีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2394 ในพระบรมมหาราชวังก่อน โดยมีพิธีพระราชกุศลในเวลาเช้า นมัสการพระสงฆ์จากวัดบวรนิเวศวรวิหารและวัดราชประดิษฐ์จำนวน 30 รูป ฉันภัตตาหารในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
          เมื่อถึงเวลาค่ำ  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออก ทรงจุดธูปเทียนนมัสการ พระสงฆ์ทำวัตรเย็นและสวดคาถาโอวาทปาติโมกข์ เมื่อสวดจบทรงจุดเทียน 1,250 เล่ม รอบพระอุโบสถ มีการประโคมอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงมีการเทศนาโอวาทปาติโมกข์ 1 กัณฑ์เป็นทั้งเทศนาภาษาบาลี และภาษาไทย ส่วนเครื่องกัณฑ์ประกอบด้วยจีวรเนื้อดี 1 ผืน เงิน 3 ตำลึงและขนมต่างๆ เมื่อเทศนาจบ พระสงฆ์ 30 รูป สวดรับ

          ในสมัยรัชกาลที่ 4 นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกประกอบพิธีด้วยพระองค์เองทุกปี แต่มีการยกเว้นบ้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องจากบางครั้งตรงกับช่วงเสด็จประพาสก็จะทรงประกอบพิธีมาฆบูชาในสถานที่นั้นๆ ขึ้นอีกแห่ง นอกเหนือจากภายในพระบรมมหาราชวัง
          ต่อมาการประกอบพิธีมาฆบูชาได้แพร่หลายออกไปภายนอกพระบรมมหาราชวัง และประกอบพิธีกันทั่วราชอาณาจักร ทางรัฐบาลจึงประกาศให้เป็นวันหยุดทางราชการด้วย เพื่อให้ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพได้ไปวัด เพื่อทำบุญกุศลและประกอบกิจกรรมทางศาสนา

          นอกจากนี้ในปี พ.ศ.2549 รัฐบาลไทยประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกด้วย

 หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติ

          หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติคือ "โอวาทปาติโมกข์" ซึ่งเป็นหลักคำสอนสำคัญอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เพื่อไปสู่ความหลุดพ้น หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ 3 อุดมการณ์ 4 และวิธีการ 6 ดังนี้

 หลักการ 3 คือหลักคำสอนที่ควรปฏิบัติ ได้แก่
          1.การไม่ทำบาปทั้งปวง คือ การลด ละ เลิก ทำบาปทั้งปวง อันได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 ซึ่งเป็นทางแห่งความชั่ว 10 ประการที่เป็นความชั่วทางกาย (การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม) ทางวาจา (การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ) และทางใจ (การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม)

          2.การทำกุศลให้ถึงพร้อม คือ การทำความดีทุกอย่างตาม กุศลกรรมบถ 10 ทั้งความดีทางกาย (ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ประพฤติผิดในกาม) ความดีทางวาจา (ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดเพ้อเจ้อ) และความดีทางใจ (ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น มีความเมตตาปรารถนาดี มีความเข้าใจถูกต้องตามทำนองคลองธรรม)

          3.การทำจิตใจให้ผ่องใส คือ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลุดจากนิวรณ์ที่คอยขัดขวางจิตใจไม่ให้เข้าถึงความสงบ ได้แก่ ความพอใจในกาม, ความพยาบาท, ความหดหู่ท้อแท้, ความฟุ้งซ่าน และความลังเลสงสัย

          ซึ่งทั้ง 3 หลักการข้างต้น สามารถสรุปใจความสำคัญได้ว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" นั่นเอง

 อุดมการณ์ 4 ได้แก่

          1.ความอดทน อดกลั้น คือ ไม่ทำบาปทั้งกาย วาจา ใจ
          2.ความไม่เบียดเบียน คือ งดเว้นจากการทำร้าย หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
          3.ความสงบ ได้แก่ การปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ
          4.นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา


 วิธีการ 6 ได้แก่

          1.ไม่ว่าร้าย คือ ไม่กล่าวให้ร้าย โจมตีใคร
          2.ไม่ทำร้าย คือ การไม่เบียดเบียนผู้อื่น
          3.สำรวมในปาติโมกข์ คือ เคารพระเบียบวินัย กฎกติกา รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของสังคม
          4.รู้จักประมาณ คือ รู้จักความพอดีในการบริโภค รวมทั้งการใช้สอยสิ่งต่างๆ
          5.อยู่ในสถานที่สงัด คือ อยู่ในสถานที่ที่มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
          6.ฝึกหัดจิตใจให้สงบ คือ การฝึกหัดชำระจิตใจให้สงบ มีประสิทธิภาพที่ดี


เวียนเทียน


 กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันมาฆบูชา

          การปฏิบัติตนสำหรับพุทธศาสนิกชนในวันมาฆบูชาคือ คือ ในตอนเช้า ควรไปทำบุญตักบาตร ไปวัดเพื่อฟังพระธรรมเทศนา หรือจัดสำรับคาวหวานไปทำบุญถวายภัตตาหาร ช่วงบ่ายฟังพระแสดงพระธรรมเทศนา เจริญสมาธิภาวนา เมื่อถึงตอนค่ำ นำดอกไม้ ธูปเทียนไปเวียนเทียน 3 รอบที่พระอุโบสถ โดยการเวียนเทียนนั้นจะเวียนขวา จำนวน 3 รอบ และช่วงเวลาที่เดินอยู่นั้นให้ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นอกจากนี้พุทธศาสนิกชนควรบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตามสถานที่ต่างๆ และรักษาศีล สำหรับตามบ้านเรือน สถานที่ราชการ จะมีการประดับธงชาติ ธงธรรมจักร เพื่อระลึกถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา 


 ข้อเสนอแนะการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในวันมาฆบูชา

 กิจกรรมเกี่ยวกับครอบครัว
          กิจกรรมที่ครอบครัวควรทำในวันมาฆบูชา อย่างเช่น การทำความสะอาดบ้าน จัดแต่งที่บูชาประจำบ้าน ชักชวนครอบครัวไปทำบุญตักบาตร ฟังศีล ฟังธรรม บำเพ็ญกุศล ปฏิบัติธรรม รวมทั้งควรศึกษาหลักธรรมคำสั่งสอน และความสำคัญของวันมาฆบูชาด้วย

 กิจกรรมเกี่ยวกับสถานศึกษา

          ในสถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญอีกแห่ง โดยภายในสถานศึกษาควรมีการร่วมรำลึกถึงความสำคัญของวันมาฆบูชา เช่น จัดนิทรรศการให้ความรู้ ประกวดเรียงความ ตอบปัญหาธรรมะ บรรยายธรรม หรือร่วมกันทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน บำเพ็ญกุศล อีกทั้งประกาศเกียรติคุณนักเรียนผู้ทำประโยชน์ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี

 กิจกรรมเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน

          ควรประชาสัมพันธ์ในที่ทำงาน และจัดให้มีการบรรยายธรรม หรือร่วมบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกัน ร่วมทำบุญ บำเพ็ญกุศลร่วมกัน

 กิจกรรมเกี่ยวกับสังคม

          ภาคส่วนต่างๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็น วัด มูลนิธิ สมาคม สื่อมวลชน สนามบิน สถานีรถไฟ ฯลฯ ควรช่วยกันประชาสัมพันธ์ความสำคัญของวันมาฆบูชา อาจเป็นการพิมพ์เอกสารให้ความรู้ จัดให้มีการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน เช่น ทำบุญตักบาตร ฟังธรรม ช่วยกันรณรงค์ให้เลิกอบายมุข แต่รณรงค์ให้ช่วยกันทำประโยชน์ต่อสังคมแทน อาจช่วยกันปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดที่สาธารณะ ฯลฯ


 ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดกิจกรรมในวันมาฆบูชา

          พุทธศาสนิกชนจะมีความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับความสำคัญของวันมาฆบูชา รวมทั้งหลักธรรมต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความตระหนักต่อความสำคัญของพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะชาวพุทธ และยังเป็นการช่วยธำรงพระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ประชุมบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน


วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ



กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ

            วันที่  5  ธันวาคม  2555  ห้องสมุดประชาชนอำเภอหันคา  ได้จัดกิจกรรมเพื่อแสดงความ
จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  โดยจัดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ และประดับธงตราสัญลักษณ์  
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช  บริเวณหน้าอาคารห้องสมุดประชาชนอำเภอหันคา  และยังมีการจัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ  พระราชกรณียกิจ  พระบรมฉายาลัษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ส่วนภายในห้องสมุดได้จัดนิทรรศการแนะนำหนังสือดีที่น่าอ่าน   ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เช่น  หนังสือเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคุณๆ สี่ขา  พระราชอารมณ์ขันจากพระโอษฐ์  การเดินตามรอยพระยุคลบาท  ฯลฯ




                                                                








                                                                   

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประวัติวันพ่อ 5 ธันวามหาราช วันพ่อแห่งชาติไทย


ประวัติวันพ่อ 5 ธันวามหาราช วันพ่อแห่งชาติไทย
ประวัติ วันพ่อแห่งชาติ
                วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา หลักการและเหตุผลที่มีการจัดตั้งวันพ่อขึ้นแห่งชาติ เนื่องจากพ่อ เป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็น“วันพ่อแห่งชาติ” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะ พ่อแห่งชาติ ซึ่งนอกจากพระองค์จะเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงทะนุบำรุงพระราชโอรสธิดาด้วยความรัก และทรงอบรมอนุศาสน์ให้ทรงเจริญวัยสมบูรณ์ ทรงเป็น “พ่อ” ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา อีกทั้งยังทรงบำเพ็ญคุณานุประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ทรงพระมหากรุณาทะนุบำรุงขจัดทุกข์ผดุงสุขพสกนิกรถ้วนหน้า พระองค์ทรงเป็น ?พ่อแห่งชาติ? ที่อาณาประชาราษฎร์เทิดทูนด้วยความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และยึดมั่นในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการทะนุบำรุงชาติบ้านเมืองให้วัฒนาถาวรสืบไป

โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ในระบอบประชาธิปไตย



                วันที่  29  พฤศจิกายน  2555  นางอุษา  กุลสราวุธ  ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบแลการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอหันคา  ได้กล่าวเปิดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ในระบอบประชาธิปไตย  ณ  หอประชุมอำเภอหันคา  โดยวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต ) ของจังหวัดชัยนาท  มาให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย  เช่น  ชีวิตกับการเมือง  ทำไมเราถึงต้องไปเลือกตั้ง  คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ให้กับนักศึกษา กศน.อำเภอหันคา  







                                                                            

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าคืออะไร



" สถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 ในต่างประเทศ " โดยอ้างอิงข้อมูลองค์จากการอนามัยโลก เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2555 พบผู้ป่วยติดเชื้อ 2 ราย ในจำนวนนี้ เสียชีวิต 1 ราย โดยเป็นผู้ป่วยชายชาวกาตาร์ และผู้ป่วยชาวซาอุดิอาระเบีย ซึ่งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันการพบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ทั้งสองราย ณ วันที่ 25 กันยายน 2555 และไม่พบรายงานผู้ป่วยเพิ่มเติม สำหรับประเทศไทย “ยังไม่พบ” การแพร่ระบาดของโรค

โรคติดเชื้อโคโรน่า
            เชื้อไวรัสโคโรน่า (CoVs) เป็นไวรัสชนิดอาร์เอ็นเอสายเดี่ยว (single stranded RNA virus) ใน Family Coronaviridae มีรายงานการพบเชื้อมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1965 โดยสามารถติดเชื้อได้ทั้งในคนและ สัตว์ เช่น หนู ไก่ วัว ควาย สุนัข แมว กระต่าย และสุกร ประกอบด้วยชนิดย่อยหลายชนิดและทำให้มีอาการ แสดงในระบบต่างๆ เช่น ระบบทางเดินหายใจ (รวมถึงโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์ส; SARS CoV) ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท หรือระบบอื่นๆ ระบาดวิทยาของเชื้อ : เชื้อไวรัสโคโรน่า (CoVs) พบได้ทั่วโลก โดยในเขตอบอุ่น (temperate climates) มักพบเชื้อในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ

คำขวัญอำเภอหันคา

คำขวัญอำเภอหันคา หลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์ งามวิจิตรบึงฉวาก แหล่งปลามากระหานบัว ร่มรื่นเขาสารพัดดี เด่นเป็นศรีชาวหันคา งามสุดตาเกาะเมือง

Blogger templates

. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Blog Archive

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More